บทที่ 1 ปัจจัยพื้นฐานและการจัดหาโปรแกรมทางการบัญชี


1 ปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะพิจารณาในการเลือกใช้โปรแกรมทางการบัญชีให้เหมาะสมกับองค์กร

       โปรแกรมบัญชีที่มีขายอยู่ในประเทศไทยตอนนี้มีอยู่หลายชนิด ตั้งแต่ประเภทที่รองรับการบันทึกบัญชีและทำงบการเงินเพียงอย่างเดียว (ระบบ GL), ประเภทที่เป็น integrated accounting system คือ เอาระบบการขาย ออกใบกำกับสินค้า ฯลฯ มาเชื่อมกับระบบบัญชีและบันทึกบัญชีโดยอัตโนมัติ ไปจนถึงระบบซอฟแวร์บัญชีขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมฟังก์ชั่นการวางแผนทรัพยากรขององค์กร (ERP) ไว้ด้วย

       การเลือกใช้งานโปรแกรมรูปแบบใดนั้นต้องพิจารณาจากความต้องการของธุรกิจเป็นหลัก เช่น ต้องการความสามารถหรือฟังก์ชั่นการทำงานแบบใดบ้าง ต้องการระบบที่เป็นแบบ Online (ผ่าน internet/intranet) หรือเป็นแบบ stand alone รันบน PC เครื่องเดียว เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้
k;lkl 
ERP
Integrated accounting systems
ระบบ GL
1. ราคา
สูง
ปานกลาง
ต่ำ
2. ความซับซ้อนในการติดตั้งและนำมาใช้งาน
ต้องมีการ customize โดยผู้มีความชำนาญก่อนจึงสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
ต้อง customize ก่อนบ้าง บางครั้งอาจไม่ต้อง customize เลย
Install แล้วใช้ได้เลย
3. Hardware requirement
สูง
ปานกลาง/ต่ำ
ต่ำ
4. ความยุ่งยากในการใช้งาน
มีความยุ่งยาก ต้อง train พนักงานก่อนจึงสามารถใช้ระบบได้ถูกต้อง
ผู้ติดตั้งระบบแนะนำการใช้งานเบื้องต้นและศึกษาวิธีใช้งานจากคู่มือเพิ่มเติม
ศึกษาวิธีใช้งานจากคู่มือด้วยตนเอง
5.การบำรุงรักษาหลังจากที่ซอฟแวร์ถูกนำมาใช้แล้ว
มีค่าใช้จ่ายสูงทั้งด้านการ upgrade ซอฟแวร์ และการดูแลเครื่อง server
มีค่าใช้จ่ายพอสมควรหากต้องการ upgrade เป็น version ใหม่
ไม่ค่อยมีการบำรุงรักษา หากต้องการ upgrade มักติดตั้งโปรแกรมใหม่แทนเลยเนื่องจากราคาต่ำ


2 การจัดหาโปรแกรมทางการบัญชี

       องค์กรแต่ละแห่งสามารถพัฒนาโปรแกรมทางการบัญชีขึ้นมาเองหรือจะซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปจากบริษัทผู้ผลิตโปรแกรมโดยเฉพาะก็เป็นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและทรัพยากรที่มีอยู่ของแต่ละองค์กร ตารางต่อไปนี้จะแสดงถึงข้อแตกต่างระหว่าง 2 ทางเลือกในการจัดหาโปรแกรมทางการบัญชี

พัฒนาใช้เอง
ซื้อสำเร็จรูปจากภายนอก
(Package)
คุณภาพ
มั่นใจในคุณภาพ
ความสามารถของโปรแกรมอาจไม่ตรงกับลักษณะของธุรกิจ ทำให้ไม่ได้คุณภาพตามต้องการ
การฝึกอบรมและบำรุงรักษา
ต้องฝึกอบรมการใช้งานและบำรุงรักษาเอง
บริษัทผู้ขายจัดฝึกอบรมและบำรุงรักษา
โปรแกรมเมอร์
ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์มาเขียนโปรแกรม
ไม่ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์
ตรงตามความต้องการ
ละเอียด ตรงตามความต้องการ
เป็นมาตรฐาน อาจต้องมีการแก้ไข ความละเอียดขึ้นอยู่กับราคา
ต้นทุน
ต้นทุนสูงและยากในการประมาณการล่วงหน้า
ต้นทุนต่ำและประมาณการล่วงหน้าได้
ระยะเวลา
ใช้เวลาในการพัฒนานาน
ซื้อเมื่อต้องการ
เข้ากันได้กับระบบงาน
ออกแบบเพื่อให้เข้ากับระบบงานได้ดี
ต้องเลือกประเภทและชนิดที่เข้ากับระบบงานได้มากที่สุด
หาได้ในท้องตลาด
ไม่มีจำหน่ายในท้องตลาด
มีจำหน่ายในท้องตลาด ราคาอยู่ในระดับที่สามารถซื้อขายได้
2.1โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาใช้งานเอง
ข้อดี ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มีความยืดหยุ่นสูง
ข้อเสีย ลงทุนสูง, ใช้เวลาในการพัฒนานาน, โอกาสพัฒนาไม่สำเร็จมีสูง ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทีมงาน

2.2โปรแกรมสำเร็จรูป (Package)
ข้อดี สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อทำการติดตั้งสำเร็จ, ราคาถูกกว่าพัฒนาโปรแกรมใช้เองมาก
ข้อเสีย ไม่มีความยืดหยุ่น, ไม่รับ Modify ให้กับลูกค้า

2.3โปรแกรมที่เป็นกึ่ง Package
เป็นการแก้ปัญหาของโปรแกรมทั้งสองประเภทที่ได้กล่าวมาแล้ว เมื่อมีโปรแกรมเป็นชุดมาตรฐาน แล้วสามรถนำมา Modify ให้เข้ากับงานของท่านได้โดยเสียค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น